วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551

การปรับแต่ง Regedit
โชว์ Background แบบเต็มๆด้วยการซ่อน Desktop
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\Explorer]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDesktop ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


ซ่อนหน้า Background Setting
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\System]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispBackgroundPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


ซ่อนหน้า Appearance Setting
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\System]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispAppearancePage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


ซ่อนหน้า Display Setting
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\System]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispSettingsPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


ซ่อนหน้า Screensaver Setting
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\System]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispScrSavPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


ซ่อน Device Manager
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\System]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDevMgrPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง
ซ่อนไอคอน Network Neighbourhood
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\Explorer]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoNetHood ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


กันไว้ไม่ให้ใครมาเพิ่ม Printer
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\Explorer]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoAddPrinter ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


กันไว้ไม่ให้ใครมาลบ Printer
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\Explorer]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDeletePrinter ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


ซ่อน My Pictures ตรง Start Menu
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Policies\Explorer]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoSMMyPictures ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง


ลบลูกศรที่ Shortcut
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CLASSES_ROOT\lnkfile] คลิก Name ที่ชื่อว่า IsShortcut แล้วกดปุ่ม Delete เพื่อลบออกไป หรือ Double Click แล้วใส่ค่าเป็น No


แสดงไฟล์ Operating System ที่ซ่อนอยู่
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Explorer\Advanced]
คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า ShowSuperHidden ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง
วิธีการเพิ่มความเร็วให้กับ Start Menu
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Control Panel\Desktop] ต่อจากนั้นคลิกขวาที่ Folder ชื่อ Desktop นี้แล้วเลือก New >> String Value และให้เปลี่ยนชื่อเป็น MenuShowDelay เรียบร้อยแล้ว คลิกขวาแล้วเลือก Modify ที่ช่อง Value Data ให้คุณใส่เลข 1 ลงไป จากนั้นกด OK เรียบร้อยแล้ว Restart เครื่องใหม่


วิธีการสร้าง Control Panel ขึ้นมาเป็นของตัวเอง
เปิดหน้าต่าง Control Panel ปกติขึ้นมาค้างไว้ก่อน สร้าง Folder ขึ้นมาใหม่ โดยให้ไปที่ File >> New >> Folder และให้คลิกที่ Folder ที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ให้เปิดออกมา พร้อมกับเอาเจ้าหน้าต่าง Control Panel จริงๆที่เปิดเอาไว้มาวางใกล้ๆ จากนั้นให้ลากเครื่องมือที่ต้องการจากใน Control Panel จริงๆนั้นมาใส่และตอบ Yes ได้เลย ซึ่งตรงนี้อยากได้เครื่องมืออะไรก็สามารถลากเข้ามาได้เลย ซึ่งเครื่องมือต่างๆที่ได้ลากเข้ามานี้ จะมีข้อความนำหน้าชื่อว่า Shortcut to ซึ่งสามารถเปลี่ยนมันเป็นชื่ออะไรก็ได้


วิธีการทำ Start Menu ให้มี List ในแนวนอน
เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Explorer\Advanced]
คลิกขวา เลือก New >> String Value แล้วตั้งชื่อว่า StartMenuScrollPrograms ให้ Double Click ขึ้นมาแล้วใส่ค่า Value Data เป็น False หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก


ท่านใดที่กลับมาใช้ Office97 แล้วมีปัญหากับ Access
สำหรับท่านใดที่เคยลง Office 2000 และรู้สึกคุ้นเคยหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ต้องการกลับมาติดตั้ง Office 97 แทน ซึ่งการกระทำเช่นนี้ จะทำให้มีปัญหากับโปรแกรม Access 97 แน่นอน (แต่โปรแกรมอื่นๆสามารถใช้ได้ปกติ) คือจะมีข้อความว่า "Microsoft Access ไม่สามารถเริ่มต้นการทำงาน เนื่องจากไม่มีใบอนุญาต (License) สำหรับมันในเครื่องนี้"

วิธีแก้ไขให้ทำดังนี้ คือว่าให้ค้นหาไฟล์ที่ชื่อ hatten.ttf จากเครื่อง ซึ่งปกติไฟล์นี้จะอยู่ที่ C:\WINDOWS\FONTS นั่นเอง จากนั้นลบไฟล์นี้ทิ้ง ต่อจากนั้นให้ทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office 97 ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อความแน่นอน ก็น่าจะ Restart เครื่องด้วย คราวนี้ก็จะสามารถกลับมาใช้ Access 97 ได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว


วิธีการลงทะเบียนชื่อ ใน IRC อย่างถาวร
ขั้นแรกให้ใช้ Pirch Login และทำการ Connect เข้ามาให้เรียบร้อยก่อน วิธีในการลงทะเบียนคือ ให้พิมพ์คำว่า /msg nickserv register E-Mail แต่ตอนลงทะเบียน คุณต้องใช้ชื่อที่เราต้องการลงทะเบียนก่อน ถ้าเกิดว่ายังเป็น Guest????? อยู่ ก็ให้ทำการเปลี่ยนชื่อก่อน โดยพิมพ์ว่า /nick และตามด้วยชื่อที่ต้องการ

จากในตัวอย่างนี้ ต้องการที่จะลงทะเบียนชื่อ TestRegister เอาไว้ โดยใช้ Password ว่า Test และ E-Mail คือ test@yahoo.com ก็ต้องเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น TestRegister ให้ได้ก่อน แล้วพิมพ์คำว่า /msg nickserv register test@yahoo.com และกด Enter ได้เลย และเมื่อทุกอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด จะมีข้อความขึ้นมาว่า [NickServ] : The nickname TestRegister has now been registered to you. นั่นก็หมายความว่า ทำการจองชื่อ TestRegister เอาไว้ได้เรียบร้อยแล้ว

วิธีการต่อไปก็คือให้คุณทำการ Set Kill On โดยให้พิมพ์ว่า /msg nickserv set kill on จากนั้นกดปุ่ม Enter จะมีข้อความขึ้นมาว่า [NickServ] : Nickname Protection has been enabled for the nickname TestRegister ซึ่งก็หมายถึงว่า ชื่อของคุณนั้นถูกทำการ Protection เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

วิธีในการยืนยันว่าชื่อเป็นของเรา เมื่อคุณเข้า IRC มาใหม่ หลังจากที่คุณทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และทำการ Set Kill On แล้วด้วย หากคุณหรือใครๆใช้ชื่อหรือ Nickname ว่า TestRegister เข้า IRC มาในครั้งต่อไป จะมีข้อความขึ้นมาว่า

[NickServ] : This nickname is owned by someone else. Please choose another.
[NickServ] : If this is your nickname, please use /NickServ IDENTIFY
[NickServ] : You have 60 seconds to comply before your nickname is changed.


ก็คือว่า ต้องทำการยืนยันชื่อภายใน 60 seconds โดยพิมพ์ว่า /msg nickserv identify อย่างในตัวอย่างนี้ ก็ต้องพิมพ์คำว่า /msg nickserv identify ก็เพราะว่า Password คือ test นั่นเอง และเมื่อกด Enter ก็จะมีข้อความ [NickServ] : Password accepted for the nick TestRegister

ข้อแตกต่างของการตั้ง Set Kill On กับไม่ได้ Set
ถ้าไม่ได้ Set Kill On ไว้ เมื่อมีคนมาใช้ชื่อเรา เค้าก็จะใช้ชื่อเราได้จนกว่าเราจะมาทำการ Kill ชื่อ โดยการใส่คำสั่ง /ns ghost แต่ถ้าเรา Set Kill On ไว้ คนอื่นที่ใช้ชื่อของเรานั้น จะถูกเปลี่ยนชื่อภายใน 60 วินาที

สำหรับเทคนิคนี้ จะใช้กับ Server irc.webmaster.com ถ้าเป็น Microsoft irc.au.ac.th (server abac) ก็เปลี่ยนคำสั่งนิดหน่อย พิมพ์ว่า /msg nickserv register ไม่ต้องใส่ E-Mail แต่การยืนยันชื่อเหมือนกันกับ irc.webmaster.com เช่นเดิม


การแก้ปัญหาลืม Password ใน WinRoute
วิธีการแก้ไขก็คือ ให้คลิกขวาที่ Icon ของ WinRoute ตรงมุมขวาล่างของหน้าจอ และเลือกไปที่ Stop WinRoute Engine จากนั้นจะเห็นว่า Icon ของ WinRoute จะเปลี่ยนไปเป็นสถานะที่มีเครื่องหมายลบสีแดงทับอยู่ ต่อจากนั้นให้เปิด Regedit และไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Kerio\WinRoute\User\0] ซึ่งเมื่อพบแล้ว ให้ลบคีย์ 0 นี้ทิ้ง จากนั้นให้คลิกที่คีย์ User และไปที่เมนู Registry >> Export Registry File เพื่อทำการ Export เก็บเป็น Registry File เอาไว้

ต่อไปให้คุณย้อนขึ้นไปคลิกที่คีย์ชื่อ WinRoute และฝั่งขวาให้มองหา AdminUserAdded เมื่อพบแล้ว ให้ดับเบิลคลิกมันขึ้นมา แล้วแก้ Value Data เป็น 0 และกด OK คราวนี้ให้คุณทำการ Start The WinRoute Engine แล้วทำการดับเบิลคลิกที่ Icon ของ WinRoute ตรงมุมขวาล่างของหน้าจอขึ้นมา เพื่อทำการ Login โดยที่ช่อง Username นั้นก็ใส่คำว่า Admin เอาไว้เหมือนเดิม ส่วนช่อง Password ปล่อยเป็นว่างๆเอาไว้ ไม่ต้องใส่อะไร และกดปุ่ม OK ได้เลย ซึ่งหลังจากกด OK ก็จะเห็นได้ว่า สามารถทำการ Login เข้าไปใช้งาน WinRoute ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องใส่ Password แต่อย่างใด

แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ คราวนี้จำเป็นที่จะต้องทำการ Stop The WinRoute Engine อีกครั้ง จากนั้นไฟล์ที่เรา Export เอาไว้ ให้ดับเบิลคลิกมันและตอบ Yes และ OK ได้ทันที เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ให้ทำการ Start The WinRoute Engine อีกครั้ง ใช้งานได้ตามปกติ และก็จะสามารถเข้าไปใช้งาน WinRoute ในส่วนของ Admin ได้แล้ว แต่ยังไงก็อย่าลืมเข้าไปเปลี่ยนหรือกำหนด Password ต่างๆใหม่ด้วย ที่เมนู Settings >> Accounts แล้วทีนี้ก็จำไว้ดีๆ อย่าลืมอีก


ปรับขนาดซิสเต็มรีสโตร์
สามารถแก้ไขได้โดยเปิด Regedit และไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows
\CurrentVersion\StateMgr\Cfg\ReservedDiskSpace]
และที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\StateMgr\ReservedDiskSpace] จากนั้นเปลี่ยนค่า Max และ Min เป็นค่าที่ต้องการโดยใช้ชนิดของข้อมูลแบบ DWORD


ปรับค่าคอนฟิคในการต่อเน็ตให้ดีที่สุด
ถ้าจะปรับแต่งค่าการรับข้อมูลของ RcvWindow และ DefaultTTL ให้ดีที่สุด ให้เปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\VxD\MSTCP] แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า DefaultRcvWindow ชนิด String Value เป็น 4288 และลองหาหรือเพิ่มค่า DefaultTTL ชนิด String Value เป็น 128 จากนั้น Save แล้วออกจากโปรแกรมแล้ว Restart ใหม่


ปรับค่าเดียลอัพให้ดีที่สุด
ถ้าจะปรับแต่งค่าการรับข้อมูลของ Dialup ให้ดีที่สุด เพราะค่าของวินโดวส์ที่กำหดให้มานั้นไม่เหมาะสม ให้เปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Class\NetTrans] แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า MaxMTU ชนิด String Value เป็น 576 และลองหาหรือเพิ่มค่า MaxMSS ชนิด String Value เป็น 536 จากนั้น Save แล้วออกจากโปรแกรมแล้ว Restart ใหม่


เพิ่มค่าเซสชั่นในการเชื่อมต่อให้มากขึ้น
ในวินโดวส์นั้นกำหนดค่าสูงสุดของ HTTP Sessions ไว้จำกัดสำหรับ HTTP 1.0 เป็น 4 ซึ่งทำให้ควรเปิดหน้าต่างอินเตอร์เน็ตเอ็กพลอเรอร์ได้สูงสุด 4 หน้าต่าง แต่ถ้าใช้ HTTP 1.1 นั้นเป็น 2 ซึ่งยิ่งน้อยไปใหญ่ ถ้าคุณจะเพิ่มค่าก็ทำได้โดยเปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion
\Internet Settings]
แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า MaxConnectionsPerServer (สำหรับ 1.1) และ MaxConnectionsPer1_0Server (สำหรับ 1.0) เป็นค่าแบบ DWORD Value แล้วกำหนดค่าเป็น 8 ทั้งสองตัวก็ได้


ปรับแต่งรีจีสเตอร์ให้ใช้บล็อคไฟล์ที่มีขนาดดีที่สุด
ถ้าจะปรับแต่งค่าของขนาดของไฟล์ในแต่ละบล็อคที่ดีที่สุด เพราะค่าของวินโดวส์ที่กำหดให้มานั้นไม่เหมาะสม ให้เปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\FileSystem] แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า ContigFileAllocSize ชนิด DWORD Value เป็น 512 สำหรับค่าแบบ Decimal หรือเป็น 200 สำหรับค่าแบบ Hex


เพิ่มแคชในการรีเฟรชหน้าจอ
เปิด Regedit [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer] ใส่ค่าสตริงใหม่ลงที่หน้าต่างด้านซ้าย โดยเลือก Edit >> New >> String Value หรือแก้ไขค่า Max Cached Icons กำหนดค่าเป็น 819

ไม่มีความคิดเห็น: